0
ถูกแชร์ทั้งหมด
ก๊าซธรรมชาติ เป็นพลังงานปิโตรเลียมชนิดหนึ่ง ที่เกิดจากการทับถมของซากพืชซากสัตว์เป็นเวลานานหลายร้อยล้านปี
*(หมายเหตุ : ก๊าซ มีความหมายเดียวกับ แก๊ส หมายถึง สถานะแก๊ส )
คุณสมบัติเฉพาะตัวของก๊าซธรรมชาติ
01 สะอาด
เนื่องจาก ก๊าซธรรมชาติ มีก๊าซมีเทนเป็นองค์ประกอบหลัก ซึ่งเป็นสารที่ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น แต่ที่เราได้กลิ่นเนื่องจากเราเติมกลิ่น Ethyl Mercaptan (เอทิล เมอร์แคปแท๊น) เข้าไป เพื่อความปลอดภัย หากเกิดการรั่วไหลขณะใช้งานจะได้ทราบ
02 ปลอดภัย
- มีสถานะเป็นก๊าซ ส่วนใหญ่ใช้การขนส่งทางท่อส่งก๊าซฯ ที่ทำจากเหล็กกล้ามีความแข็งแรงกว่าเหล็กธรรมดามาก นำท่อมาเชื่อมต่อกันเป็นแนวยาวฝังไว้ใต้ดิน ในระดับความลึกมากกว่า 1.5 เมตร เข้าสู่โรงงานได้โดยตรง พร้อมทั้งมีระบบควบคุมอัตโนมัติคอยดูแลระบบท่อส่งก๊าซฯตลอดการใช้งาน และในปัจจุบันสามารถแปรสภาพก๊าซฯให้อยู่ในรูปของเหลวได้ ด้วยการลดอุณหภูมิลงที่ -160 องศาเซลเซียส โดยปริมาตรจะลดลง 600 เท่า ทำให้สามารถขนส่งทางเรือได้ เรียกว่า ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG)
- เบากว่าอากาศ มีค่าความถ่วงจำเพาะ 0.6-0.8 เท่าของอากาศ ดังนั้นเมื่อรั่วไหลจะลอยขึ้นที่สูงและฟุ้งกระจายไปในอากาศอย่างรวดเร็ว
- โอกาสติดไฟยาก เพราะมีช่วงของการติดไฟที่ร้อยละ 5-15 ของปริมาตรในอากาศและอุณหภูมิที่สามารถติดไฟได้เองที่ 537-540 องศาเซลเซียส
03 เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เป็นเชื้อเพลิงสะอาด มีการเผาไหม้สมบูรณ์ ปราศจากเขม่า เมื่อเผาไหม้จะก่อให้เกิดมลภาวะน้อยกว่าเชื้อเพลิงปิโตรเลียมอื่นจึงส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า
ประเทศไทยสามารถผลิตก๊าซธรรมชาติได้ จากแหล่งผลิตต่าง ๆ ภายในประเทศ ซึ่งมีปริมาณมากถึงร้อยละ 80 ของปริมาณการใช้งานทั้งหมดในประเทศ เพื่อความมั่นคงและมีพลังงานใช้อย่างพอเพียง ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องนำเข้าจากต่างประเทศคิดร้อยละ 20 ของปริมาณการใช้งานทั้งหมด ประเทศไทยใช้ก๊าซธรรมชาติจากแหล่งผลิตต่าง ๆ ดังนี้
อาทิ แหล่งเอราวัณ แหล่งบงกช แหล่งอาทิตย์ และแหล่งอื่น ๆ
ได้แก่ แหล่งภูฮ่อม อ.หนองแสง จ.อุดรธานี และ แหล่งนํ้าพอง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น
ได้แก่ แหล่งพัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (JDA)
ได้แก่ แหล่งยาตานา แหล่งเยตากุน และ แหล่งซอติก้า
จากต่างประเทศ อาทิ ตะวันออกกลาง อเมริกาใต้ และ ออสเตรเลีย เป็นต้น
ปัจจุบันประเทศไทยมีโรงแยกก๊าซธรรมชาติอยู่ที่ ต.มาบตาพุต จ.ระยอง 5 หน่วย และ ที่ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช อีก 1 หน่วย
ก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยมีสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่เป็นประโยชน์มากมาย ซึ่งสามารถนำมาใช้งานได้หลายรูปแบบ แต่ต้องนำไปผ่านกระบวนการในโรงแยกก๊าซธรรมชาติก่อน เพื่อจะได้นำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ได้แก่
ใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า เป็นเชื้อเพลิงในโรงงานอุตสาหกรรม เป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์ (NGV)
ใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นต้น เพื่อผลิต เม็ดพลาสติก เส้นในสังเคราะห์ ยางสังเคราะห์
เป็นสารตั้งต้นในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี เพื่อใช้ในการผลิตเม็ดพลาสติกโพลีโพรพิลีน PP เช่น ยางในห้องห้องเครื่องยนต์ หม้อแบตเตอรี่ กาว สารพิ่มคุณภาพน้ำมันเครื่องรวมทั้งใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงงานอุตสาหกรรม
ใช้เป็นเชื้อเพลิงในครัวเรือน (LPG)
ใช้ทำน้ำมันเชื้อเพลิง และตัวทำละลายในโรงงานอุตสาหกรรม
เป็นผลพลอยได้จากกระบวนการแยกก๊าซธรรมชาติ ใช้ในอุตสาหกรรมถนอมอาหาร เช่น น้ำแข็งแห้ง
น้ำมันสำเร็จรูปชนิดต่าง ๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น น้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล ฯลฯ แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า “น้ำมันสำเร็จรูป” ที่ใช้กันอยู่นั้นได้มาจากไหน ”น้ำมันดิบ” แล้ว “น้ำมันดิบ”คืออะไร วันนี้มีคำตอบ